Seiko Monster

พฤศจิกายน 5, 2009 ใส่ความเห็น Go to comments

Monster story

Monster ได้ปรากฏตัวขึ้นครั้งแรก ในปี 2000 แต่ในครั้งนั้นยังไม่มีใครให้ความสนใจสักเท่าใดนัก จนกระทั่งในปี 2002 บุคคลผู้หลงใหลในเครื่องบอกเวลาสองคนคือ คุณ Tommy แห่ง Siamnaliga.com และ คุณ Reto Castellazzi แห่ง Poor Man’s Watch Forum ก็ได้ค้นพบและขนานนามว่า Sea Monster และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา นับจากนั้นมาเหล่าบรรดาผู้คลั่งไคล้ในเครื่องบอกเวลาจำนวนมาก ก็ได้ออกตามล่าหาเจ้า Monster มาครอบครอง จนคำว่า Monster นี้ เป็นที่รู้จักและแพร่หลายสู่เหล่าผู้สะสมนาฬิกาทั่วโลกในเวลาอันรวดเร็ว

headshot6380s

SKX781K

Seiko Monster มีรหัสประจำตัวคือ SKX779K(Black dial) และ SKX781K(Orange dial) ส่วนเครื่องกลไกนั้นใช้รหัส 7S-26 Bi-directional self winding หรือเรียกอีกอย่างว่าเครื่อง Mechanical นั่นเอง

movementwithspacer6399s

เครื่องตัวนี้ได้รับการบรรจุทับทิมจำนวน 21 เม็ด ทำงานที่ 21600 bph พร้อมด้วยกลไก Magic Lever Winding Systemซึ่งได้ถูกนำไปใช้ในกลไกชั้นสูงของ Seiko ในเวลาต่อมา แม้แต่ใน Spring drive ก็เช่นกัน 7S-26 ถือเป็นเครื่องพื้นฐานของ SEIKO ที่อาจเรียกได้ว่า เป็นเครื่องที่มีความคุ้มค่าสูงสุดเมื่อเทียบกับราคา ความทนทานและความเที่ยงตรงที่ได้รับ

ลักษณะเด่นที่ทำให้ Monster ได้รับการยอมรับน่าจะมาจากความดีและความคุ้มค่า เริ่มจากตัวเรือน Stainless steel ขนาด 42 มม. ตรงนี้เองเรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของกระแสนาฬิกาขนาด XL เลยก็ว่าได้ เพราะทำให้นาฬิกาขนาด 34-36 มม. ดูเล็กไปถนัดตา ตัวเรือนหนาและใหญ่ บ่งบอกถึงความบึกบึนแข็งแรงประกอบกับการออกแบบที่ลงตัว มะยมขันเกลียวพร้อม crown guards กันน้ำได้ลึกถึง 200 เมตร มี Lumibrite marker ขนาดใหญ่ที่เรืองแสงสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนในที่มืดโดยไม่ต้องนั่งเพ่ง ที่สำคัญคือขอบ Bezel นั้นแตกต่างจากรุ่นพี่ไปอย่างสิ้นเชิง จากเดิมที่เคยใช้ขอบสีดำ กลายมาเป็นขอบเหล็กขนาดใหญ่ สลักด้วยตัวเลข 15-30-45 และสามเหลี่ยมพร้อมปุ่มเรืองแสง ตัวเลขออกแบบได้อย่างลงตัว แต่ก็ยังคงรักษาเอกลักษณ์เดิมเอาไว้ด้วยการหมุนที่ 120 clicks ทวนเข็มนาฬิกาทิศทางเดียวตามแบบฉบับของ diver watch เข็มสั้นถูกออกแบบให้เป็นลูกศรขนาดใหญ่เมื่อประกอบรวมกับเข็มยาวและเข็ม วินาทีรวมกันแล้ว ให้ความสวยงามและลงตัว คุณภาพของสายทำจาก Stainless steel ชั้นดี พร้อมด้วย double lock และ extension link สำหรับ wet suit นอกจากนี้ ตัวยึดข้อสายยังเป็นแบบปลอกล็อคเข้ากับแกน ซึ่งมีความแข็งแรงมาก

ต่อมาความโด่งดังของ Monster กระจายตัวอย่างรวดเร็วในหมู่นักนิยมนาฬิกาในประเทศไทย เมื่อมีการนำเข้า Monster มาในประเทศไทย ก็ได้รับการตอบรับและขายหมดในระยะเวลาอันรวดเร็ว จากกระแสความร้อนแรงนี้เอง เป็นที่มาของปีศาจหน้าเหลือง หรือ Yellow Monster นั่นเอง

yell

เจ้าปีศาจหน้าเหลืองมีรหัสประจำตัวคือ SKZ203K1 ถูกสร้างขึ้นในปี 2003 ด้วยจำนวนที่จำกัดเพียง 300 เรือนเท่านั้น และด้วยจำนวนที่จำกัดนี้เอง ทำให้เป็นที่ต้องการของนักสะสมในประเทศไทย จนสามารถจำหน่ายได้หมดภายในเวลา 2 วันหลังจากเปิดตัว แม้แต่นักสะสมทั่วโลกก็เช่นกัน ครั้งหนึ่งเคยทำราคาประมูลบน เว็บไซต์ ebay ได้ราคาสูงถึง US$1200 เลยทีเดียว

คุณสมบัติของเจ้าปีศาจเหลืองนี้ ก็คือหน้าปัดสีเหลืองสดใสสลับกับขอบสีดำ กระจกเปลี่ยนมาใช้ sapphire crystal พร้อมทั้งเลนส์ขยายช่องวันและวันที่ ด้านหลังสลักหมายเลขประจำตัวเรือน ส่วนเครื่องก็ upgrade มาเป็นรหัส 7S-36 บรรจุทับทิมจำนวน 23 เม็ด ช่วยลดการสึกหรอของแกนจักรและทำให้เครื่องมีการทำงานที่เสถียรยิ่งขึ้น
IMG_2352
ใน ปี 2005-2006 กระแสความร้อนแรงของ Monster ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจนทำให้มีการผลิต Blue Monster(SKZ213K1) ออกสู่ตลาด โดยเป็นการผลิตแบบ Special Edition คือจำกัดจำนวนผลิตแต่ไม่มีการระบุหมายเลขที่ตัวเรือน Blue Monster ถูกผลิตออกมาประมาณ 1,800 เรือน เอกลักษณ์ของ Blue Monster คือ หน้าปัดสีฟ้าสลับด้วยขอบสีดำและขีด Marker สีเหลือง ขอบ Bezel ในตำแหน่ง 15 วินาทีแรกจะเป็นสีแดง ที่เหลือเป็นสีดำ ส่วนเครื่องก็เปลี่ยนมาใช้ รุ่่น 7S-36 ด้วยเช่นกัน
l_01104952
เป็นที่คาดเดากันในหมู่นักนิยมนาฬิกาและแฟน ๆ ของ Monster ว่าคงจะต้องมีการผลิต version ถัด ๆ ไปตามมา และสิ่งที่คาดเดาก็เป็นจริง ในปี 2007 SEIKO ได้สร้างความแตกตื่นให้กับแฟน ๆ อีกครั้งด้วยการเปิดตัว Red Monster ( Limited Edition) ที่ใช้รหัส SKZ243K1 ออกแบบโดยดีไซน์เนอร์ชาวญี่ปุ่น มร. อาคิระ ซาไคริ (Mr.Akira Sakairi) ที่ได้แรงบันดาลใจจากสีแดงอันเป็นสีประจำชาติของประเทศญี่ปุ่น ผลิตจำนวน 1,313 เรือน หน้าปัดสีแดงสลับขอบสีดำ ช่องวันและวันที่ เป็นพื้นขาวพร้อมเลนส์ขยาย ขอบ bezel ตั้งแต่วินาทีที่ 16-59 สลักด้วยสีแดง เครื่อง 7S-36 และของอภินันทนาการพิเศษสำหรับแฟนตัวจริงของ Monster ด้วยสายหนังสีแดงสด

นอกจากนี้แล้ว กระแส Monster fever ยังกระจายไปยังผู้คลั่งไคล้ทั่วโลก ในต่างประเทศมีการนำ Monster ไป modified รูปแบบต่าง ๆ กัน เช่น White Monster หรือ นำหน้าปัดสีดำและส้ม มาสลับขอบกัน และยังพบว่า มีการออก Special edition ขายเฉพาะให้กับบางร้านในประเทศญี่ปุ่น ใช้รหัสว่า SZEN001 มีด้วยกันสองรุ่นโดยมีการเรียกชื่อต่าง ๆ กันไป เช่น Knight Monster แต่ที่ด้านหลังมีสลักคำว่า Air Diver ด้วยความมีเอกลักษณ์พิเศษโดยการทำตัวเรือนรมดำแบบเงา บนหน้าปัดสีดำ หรือสีส้ม และยังคงใช้เครื่อง 7S-26 แบบดั้งเดิม
spd_2009012492441_b
เป็นที่เข้าใจว่า Seiko ได้วางแผนการผลิตและจำหน่าย Monster ในภูมิภาค South-East Asia แต่กลับมีจุดกำเนิดในประเทศไทย และขยายความนิยมไปยังผู้ใช้นาฬิกาทั่วโลก แม้แต่ในประเทศญี่ปุ่นเองก็ตาม หรือแม้กระทั่งบรรดาสาวก Seiko ใน Web board ต่าง ๆ ทั่วโลก ตัวผมเองไม่อาจประเมินได้ว่า จำนวนการผลิตของ Seiko Monster นี้ มีมากมายเพียงใด แต่ก็อาจกล่าวได้ว่าเป็นรุ่นที่มีการผลิตที่ยาวนานที่สุดรุ่นหนึ่ง และเป็น Entry level ของผู้เริ่มสะสมนาฬิกา นับเป็นนาฬิกาที่มีความคุ้มค่าคุ้มราคามากที่สุดในปัจจุบัน ถึงแม้ว่าจะมีการคาดการณ์ว่าจะมีการหยุดการผลิต Monster ในไม่ช้า


Monster Prince

แต่ในปี 2008 ออกมาเป็น Seiko PRINCE MONSTER ผลิตจำนวน 1,666 เรือนทั่วโลก(มีหมายเลขกำกับ)

เครื่อง 7S35-00G0 ให้แฟนเจ้าปีศาจทั้งหลายได้เก็บกันอีก

post-6101-1226684667

ถือเป็นพระเอกของปี 2008 ที่ปรับโฉมใหม่จากสีเข้มดุดัน สู่สีพิงค์โกลด์ (Pink Gold) เป็นครั้งแรก โดยผลิตออกมาให้นักสะสมนาฬิกาทั่วโลกจับจองเป็นเจ้าของเพียง 1,666 เรือน ตัวเรือนสีพิงค์โกลด์ ขอบหน้าปัดด้านในสามารถหมุนเพื่อแสดงทิศทางเสมือนมีเข็มทิศติดตัว กันน้ำได้ลึกถึง 200 ม. ซึ่งคอลเลคชั่นไซโก Monster ในแต่ละรุ่น ตั้งแต่ปี 2000 ที่ผ่านมา ได้สร้างความฮือฮาและความประทับใจให้แก่นักสะสมนาฬิกาทั้งหลาย ด้วยคุณสมบัติที่เท่ คุ้มค่า หน้าปัดขนาด 42 มม. ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของกระแสนาฬิกาขนาดโอเวอร์ไซต์ ตัวเรือนสเตนเลสสตีลบ่งบอกถึงความบึกบึนแข็งแรงประกอบกับการออกแบบที่ลงตัว จึงทำให้ทุกรุ่นประสพความสำเร็จ จนถึงรุ่นล่าสุด The Prince Monster ซึ่งนับเป็นรุ่นที่ 6 ของคอลเลคชั่นไซโก Monster

และล่าสุดมีข่าวว่า ปลายปีนี้ 2009 จะออก ตัว ลิมิตเต็ด มาอีก เป็น หน้า “เขียว

ขอจบด้วยครอบครัวปีศาจทะเลครับ

2634453274fc1c08b1a0949jg7credit siamnaliga สำหรับข้อมูลครับ

หมวดหมู่:SEIKO MONSTER
  1. nim
    กุมภาพันธ์ 13, 2011 เวลา 1:35 pm

    แล้ว Seiko rainbow ของผู้หญิงล่ะคะพอจะมีข้อมูลบ้างมั้ยคะ

    • เมษายน 18, 2011 เวลา 7:59 pm

      ตัวนี้ในไทยหายากนิดนึงนะครับ เท่าที่พอทราบจะผลิตในช่วงปี 70

  1. No trackbacks yet.

ส่งความเห็นที่ nim ยกเลิกการตอบ